แอปเปิ้ลไซเดอร์ คุณประโยชน์และข้อควรระวัง

Mindful Way of Life

             แอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือ Apple Cider Vinegar (ACV) คือน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล ซึ่งมีการใช้กันอย่างกว้างขวางในต่างประเทศ เพราะมีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าเป็น superfood อย่างหนึ่งที่ช่วยให้มีสุขภาพดีและอายุยืนยาว

             โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แอปเปิ้ลไซเดอร์ ซึ่งหมักจากแอปเปิ้ลเกษตรอินทรีย์ (ออร์แกนนิค) ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการใช้ความร้อนและการกรอง (raw and unfiltered) จะยังคงรักษาเอนไซม์และแร่ธาตุจากธรรมชาติไว้ได้เป็นอย่างดี

             แอปเปิ้ลไซเดอร์มีรสเปรี้ยวและมีความเป็นกรดสูง การรับประทานจึงมักผสมน้ำดื่มให้เจือจางและอาจเติมน้ำผึ้งลงไปเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีขึ้น หรือใช้เป็นส่วนผสมของน้ำสลัด แม้มีความเป็นกรดเมื่ออยู่ภายนอก แต่เมื่อรับประทานเข้าไปในร่างกาย แอปเปิ้ลไซเดอร์จะออกฤทธิ์เป็นด่าง ด้วยเหตุนี้ จึงช่วยปรับสมดุลกรด-ด่างในร่างกายได้ดี เพราะอาหารที่เรารับประทานส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อสัตว์ นม ไข่ เมล็ดธัญพืช ล้วนทำให้ร่างกายมีภาวะเป็นกรดทั้งสิ้น ในภาพรวมภาวะร่างกายที่เป็นกรดสูงจะเอื้อกับการเติบโตของเซลล์มะเร็ง จึงมีการกล่าวว่า แอปเปิ้ลไซเดอร์สามารถช่วยป้องกันมะเร็งได้ด้วย (โปรดตรวจสอบกับผลการวิจัยเพิ่มเติม)

             จริงๆ ไม่ใช่เพียงแอปเปิ้ลไซเดอร์ออกฤทธิ์เป็นด่างเมื่อรับประทานเข้าไปในร่างกาย ผลไม้ เช่น มะนาว แตงโม หรือสับปะรด ก็ออกฤทธิ์เป็นด่างในร่างกายเช่นกัน ในขณะที่ส้มไม่ได้ออกฤทธิ์เป็นด่างเหมือนมะนาวเมื่อเข้าไปสู่ร่างกาย ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตจะช่วยตรวจสอบได้ว่า อาหารประเภทใดทำให้ร่างกายเป็นกรดหรือเป็นด่าง ซึ่งจะช่วยให้เราเลือกรับประทานเพื่อให้เกิดสมดุลกรด-ด่างในร่างกายมากขึ้น

             ประโยชน์ของ แอปเปิ้ลไซเดอร์ที่เป็นที่กล่าวขานถึงมาก คือการช่วยในการลดน้ำหนักและลดไขมันที่พุง (belly fat) เพราะช่วยให้การเผาผลาญไขมันดีขึ้นและลดระดับน้ำตาลในเลือด ทั้งนี้ มีสูตรที่แตกต่างกันออกไปในการรับประทาน เช่น หมอทีม Dr. Team เน็ตไอดอลชื่อดัง ได้แนะนำให้ทานแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำดื่มหนึ่งแก้ว (240 ml) ก่อนนอน เพื่อช่วยลดไขมันที่พุง เป็นต้น ส่วนสูตรสำหรับช่วยลดน้ำหนักสูตรอื่น ได้แก่ แอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำดื่มหนึ่งแก้ว (240 ml) รับประทานวันละสองครั้ง ก่อนอาหารเช้า และก่อนนอน

             แอปเปิ้ลไซเดอร์ยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น ควบคุมระดับน้ำตาล ลดระดับโคเลสเตอรอล ลดความดันโลหิต กำจัดพิษในร่างกาย ช่วยป้องกันนิ่วในไต และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอวัย

             คุณประโยชน์อีกประการหนึ่งที่โลกตะวันตกใช้ประโยชน์จากแอปเปิ้ลไซเดอร์ในฐานะที่เป็น home remedy หรือยาสามัญประจำบ้านมานาน คือการใช้เพื่อลดอาการเจ็บปวดหรือแสบขัดจากภาวะติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ทั้งนี้ เพราะแอปเปิ้ลไซเดอร์ช่วยลดการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย E. coli ที่ก่อให้เกิดการอักเสบในทางเดินปัสสาวะ เนื่องจากแอปเปิ้ลไซเดอร์ทำให้ระบบทางเดินปัสสาวะมีสภาวะเป็นกรดมากขึ้นนั่นเอง อย่างไรก็ดี ต้องเน้นย้ำว่า หากติดเชื้อทางเดินปัสสาวะแล้ว การไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด การดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์เป็นเพียงช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดเท่านั้น นอกจากนี้ การดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์หนึ่งช้อนโต๊ะแบบผสมน้ำให้เจือจางเป็นประจำก็อาจช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ด้วยในคนที่ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ง่าย

             นอกเหนือจากแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่มีสรรพคุณป้องกันการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ ผลและน้ำแครนเบอรี่ ก็ได้ชื่อว่ามีสรรพคุณในการป้องกันและลดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะเช่นกัน ปัจจุบันมีแคปซูลแครนเบอรี่ขายเป็นอาหารเสริมเพื่อการนี้ด้วย แต่หากเราไม่ต้องการทานในรูปแคปซูล เราก็สามารถผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำแครนเบอรี่หนึ่งแก้ว (240 ml) ทานเวลาท้องว่างทุกวันเพื่อป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้

             ในขณะที่มีคุณประโยชน์หลายอย่าง การใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์ก็มีข้อควรระวังที่เราต้องรู้ด้วยเช่นกัน ได้แก่

             1. การทานแอปเปิ้ลไซเดอร์มากเกินไปจะทำให้ร่างกายมีระดับโปแทสเซียมต่ำ ซึ่งก่อให้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง และทำให้ร่างกายต้องดึงแร่ธาตุจากกระดูกออกมาใช้ จึงทำให้กระดูกพรุนได้ เราจึงไม่ควรทานเกินวันละ 2 ช้อนโต๊ะ (30 ml)

             2. การทานแอปเปิ้ลไซเดอร์ต้องทานแบบเจือจางเท่านั้น (ผสมน้ำดื่ม หรือผสมกับน้ำมันใช้เป็นน้ำสลัด) เพราะมีความเป็นกรดสูง จึงอาจเป็นอันตรายต่อกระเพาะและหลอดอาหารได้หากทานแบบไม่เจือจาง โดยปกติ การผสมน้ำดื่มจะใช้อัตราส่วน 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำดื่มหนึ่งแก้ว (240 ml)

             3. แอปเปิ้ลไซเดอร์ทำให้กระบวนการย่อยอาหารช้าลง เราจึงรู้สึกอิ่มนานขึ้น ดังนั้น เราจึงควรรับประทานก่อนอาหารอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง หรือทานตอนท้องว่าง มิฉะนั้น อาจทำให้ท้องอืดและอาหารไม่ย่อย (เหมือนกับสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็นทั้งหมดที่ต้องรับประทานตอนท้องว่าง หรือก่อนอาหารอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ไม่เช่นนั้น ท้องจะอืดและอาหารไม่ย่อยเช่นกัน)

             4. แม้จะช่วยล้างพิษในร่างกาย และป้องกันนิ่วในไต แต่หากมีภาวะไตอ่อนแออยู่แล้ว ก็ควรหลีกเลี่ยงการทานแอปเปิ้ลไซเดอร์ เพราะความเป็นกรดสูงจะทำร้ายไตได้

             5. กรดจากแอปเปิ้ลไซเดอร์สามารถทำลายเคลือบฟันของเราได้ จึงควรดื่มแบบเจือจางตามสูตรข้างต้นโดยใช้หลอดดูดเพื่อลดการสัมผัสกับเคลือบฟันของเรา และแปรงฟันให้สะอาดหลังดื่ม

             โดยสรุป ทุกสิ่งที่ดีก็มีข้อเสียหรือข้อควรระวัง สิ่งที่ดีหากใช้มากเกินไปก็อาจเป็นโทษ เราจึงควรศึกษาข้อดีข้อเสียให้ดีก่อนใช้ยาสามัญประจำบ้านและสมุนไพรใดๆ ทุกครั้ง ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรงนะคะ ☺

 โดยทีมงาน Six Facets Press

 

รายการอ้างอิง

Roni DeLuz ND, RN, PH.D. Apple Cider Vinegar. MIRACLE OR HYPE? Retrieved from https://steveharvey.com/apple-cider-vinegar/

6 Health Benefits of Apple Cider Vinegar, Backed by Science. Retrieved from https://www.healthline.com/nutrition/6-proven-health-benefits-of-apple-cider-vinegar#1.-High-in-healthful-substances

Side Effects of Apple Cider Vinegar. Retrieved from https://www.medicalnewstoday.com/articles/324184

Apple Cider Vinegar for UTIs. Retrieved from https://www.healthline.com/health/apple-cider-vinegar-for-uti#:~:text=Add%201%20to%202%20tablespoons,women%20with%20frequently%20recurring%20infections.

19 Benefits of Drinking Apple Cider Vinegar + How To Drink It. Retrieved from https://www.asweetpeachef.com/benefits-of-apple-cider-vinegar/

Apple Cider Vinegar: UTI Treatment or Myth? Retrieved from https://plushcare.com/blog/apple-cider-vinegar-uti-treatment/

Caution! Never Do These 6 Things While Drinking Apple Cider Vinegar. Retrieved from https://timesofindia.indiatimes.com/life-style/health-fitness/photo-stories/caution-never-do-these-6-things-while-drinking-apple-cider-vinegar/photostory/64584400.cms?picid=64584553

What’s the deal with ACV and weight? Retrieved from https://greatist.com/health/apple-cider-vinegar-for-weight-loss#weight-loss

หมอทีม Dr. Team. อย่า ! กินแอปเปิ้ลไซเดอร์ถ้าคุณไม่รู้ 4.5 ข้อนี้. สืบค้นจาก https://www.youtube.com/watch?v=cIOxgN5P_xk