Last updated: 2 Feb 2019 |
คุณเคยสังเกตไหมว่าบางครั้งคุณก็พบว่าตัวเองนั่งแช่ดูรายการต่างๆ ละคร ซีรีส์อาชญากรรมทางทีวี หรือเล่นเกมเป็นเวลานานๆ หรือหาเรื่องออกไปเดินเล่นห้างโดยไม่มีเป้าหมายที่จะซื้ออะไร ทั้งๆ ที่จริงๆ ก็รู้ว่ามีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะ
หรือคุณอาจสังเกตว่า ภรรยาของคุณเอาแต่นั่งเล่นเฟสบุ๊คหรือไลน์ หรือไล่ดูยูทูปจากคลิปหนึ่งไปอีกคลิปหนึ่ง ซึ่งเมื่อเธอเลิกดูมือถือตรงนั้น ก็หันมาบ่น จิกกัด กดดันคุณว่าทำไมทำอย่างนี้ ทำไมไม่ทำอย่างนั้น
หากตัวเราหรือผู้คนรอบตัวเรารู้ว่าในแต่ละวันควรทำอะไร มีเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่ในใจ ไม่ต้องพูดถึงเป้าหมายระยะยาวในชีวิต เอาแค่เป้าหมายระยะสั้นๆ ของวันนี้ ของเดือนนี้ หรือของปีนี้ เราน่าจะมีโครงสร้างของวันที่ดีขึ้น ไม่ใช่แค่ไหลจากกิจกรรมที่ไม่เกิดประโยชน์อย่างหนึ่งไปหากิจกรรมที่ counter-productive อีกอย่างหนึ่ง
ดังนั้น การมีเป้าหมายก็เหมือนการมีแผนที่ที่จะเดินไปข้างหน้า มีทิศทางที่จะเดินไปยังจุดหมายปลายทางแห่งใดแห่งหนึ่ง ไม่เช่นนั้นเราก็จะหมุนไปหมุนมาในแต่ละวัน จับจดกับการทำกิจกรรมต่างๆ เพราะไม่มีทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจนจะเดินไป
การฉลองปีใหม่ก็เพิ่งผ่านมา จึงเป็นโอกาสอันดีเราอาจลงมือตั้งเป้าหมายในระยะต่างๆ เช่น เป้าหมายที่จะเป็นผู้บริหารขององค์กร ก็เป็นเป้าหมายระยะยาว สิ่งที่เราอยากจะบรรลุให้ได้ในช่วง 3-5 ปี ก็เป็นเป้าหมายระยะกลาง ส่วนการตั้งเป้าหมายซึ่งอาจบรรลุได้ภายในเวลา 1 เดือนถึง 1 ปี ก็เป็นเป้าหมายระยะสั้น
เมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว เราก็สามารถกำหนดวิธีการและขั้นตอนที่จะทำให้เป้าหมายทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวเป็นจริงได้ โดยจะเห็นว่า การปฏิบัติตามวิธีการและขั้นตอน ซึ่งเป็น action plan หรือ road map ของแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ จะพาคุณไปยังจุดหมายข้างหน้า ในขณะที่เป้าหมายระยะสั้นกว่า จะช่วยสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายในระดับที่สูงขึ้นไปเป็นลำดับ
เป้าหมายต้องเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์กับเรา ปฏิบัติได้จริง มีความชัดเจนเฉพาะเจาะจง โดยหากสามารถระบุเป็นจำนวนตัวเลขได้ยิ่งดี วัดผลได้ มีกรอบเวลาที่ชัดเจน ที่สำคัญยังต้องเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร โดยเมื่อเขียนออกมาแล้วให้นำมาอ่านทบทวนเป็นระยะๆ ช่วงเช้าหลังตื่น หรือก่อนเข้านอน
เป้าหมายอาจเป็นเรื่องครอบครัวความสัมพันธ์ เรื่องการงานอาชีพ เรื่องทรัพย์สิน เรื่องการพัฒนานิสัยบางอย่าง หรือการเลิกนิสัยบางอย่าง การลดน้ำหนัก การพัฒนาหรือเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ หรือการมีจิตใจที่สงบเข้าใจความจริงของโลก เป็นต้น
ลองมาดูเป้าหมายของปุ๊กลุ๊กในระยะ 3-6 เดือนกัน
► ลดน้ำหนักให้ได้ 5 กิโลกรัมใน 3 เดือน
► เรียนรู้การเทรดหุ้นแบบใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค 2 คอร์สในเวลา 3 เดือน
► เพิ่มรายได้จากการขายของออนไลน์ เป็น 50,000 บาทต่อเดือนในเวลา 6 เดือน
โดยที่ตั้งเป้าไว้เช่นนี้ ปุ๊กลุ๊กเลยทำแผนสำหรับแต่ละวันและในกรอบของสัปดาห์ ที่อาจเรียกว่า To-do List ดังนี้
☺ ทานไข่วันละ 4 ฟอง ทานเนื้อสัตว์และผัก พร้อมงดข้าวขาวและอาหารจากแป้งขาว รวมทั้งน้ำหวาน และอาหารหวาน
☺ ทานมื้อเช้าให้มากที่สุด มื้อกลางวันพอประมาณ และมื้อเย็นน้อยมากหรือไม่ทานเลย
☺ ดื่มน้ำเปล่าวันละอย่างน้อย 8 แก้ว
☺ เข้านอนอย่างช้าเวลา 23.00 น. และนอนอย่างน้อย 6-7 ชั่วโมง
☺ ออกกำลังกายด้วยการวิ่งสัปดาห์ละ 4 ครั้ง ครั้งละ 45 นาที
☺ เรียนคอร์สออนไลน์เรื่องการเทรดหุ้นสายเทคนิควันละ 1 ชั่วโมงก่อนไปทำงานประจำ
☺ ทำ data mining เพื่อหาสินค้าสำหรับลงขายวันละ 1 ชั่วโมง และสร้าง listing เพื่อประกาศขายสินค้าวันละ 5 listings ในตอนเย็นหลังเลิกงานประจำ
☺ พบปะกลุ่มที่ทำงานออนไลน์ หรือกลุ่มที่เทรดหุ้น สัปดาห์ละ 1 ครั้งในวันเสาร์หรืออาทิตย์
เมื่อเวลาผ่านไป 1 เดือนปุ๊กลุ๊กก็จะวัดผลว่ามีความคืบหน้าหรือมีอุปสรรคอย่างไรในการลดน้ำหนัก การขายของออนไลน์ หรือการเรียนรู้ทักษะด้านการเทรดหุ้น โดยอาจมีการปรับแผนการปฏิบัติให้เหมาะสมกับสถานการณ์มากขึ้น
เพียงเท่านี้วันหนึ่งๆ ของปุ๊กลุ๊กหรือของเราก็จะมีลำดับกิจกรรมที่ชัดเจน ดูมีโครงสร้างของวัน เพื่อเดินทางไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ พร้อมลดหรือกำจัดกิจกรรมที่ไม่เป็นประโยชน์กับชีวิตออกไป ทั้งยังจะมีสุขภาพจิตและกายที่ดีขึ้นอีกด้วย☺
โดยทีมงาน Six Facets Press
11 Jun 2020
16 Feb 2019
21 Jul 2019